หากเราติดตั้งการใช้คีย์การ์ดแล้ว จำเป็นไหมต้องตั้งรหัสประตูอีก
อัพเดทเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 เวลา 08:35:21 น.
การรักษาความปลอดภัยเดี๋ยวนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก จะเห็นได้จากข่าวที่อาชญากรรมรูปแบบต่างๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนต่างต้องแสวงหาความปลอดภัยกันทั้งนั้น บางครั้งอาจจะต้องใช้สองถึงสามชั้นเลย อย่างเช่นการใช้คีย์การ์ดแล้ว อาจจะยังไม่พอ อาจจะต้องตั้งรหัสประตูอีกชั้นหนึ่งการใช้คีย์การ์ด กับรหัสผ่านประตูอีกคืออะไร
การใช้คีย์การ์ด กับการตั้งรหัสผ่านประตูคืออะไร คือ การล็อคเพื่อความปลอดภัยอย่างน้อยสองชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นการสแกนบัตรคีย์การ์ดเพื่อแสดงตัวตน (User) จากนั้นอาจจะต้องกดรหัสผ่านที่ประตูอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตนของบัตร (Password) หากไม่ตรงกันก็จะเข้าประตูไม่ได้
ใช้คีย์การ์ดกับการตั้งรหัสผ่านประตูกับพื้นที่สำคัญ
การคีย์การ์ดควบคู่กับการตั้งรหัสผ่านประตูแบบนี้ มักไม่ค่อยใช้กับพื้นที่ทั่วไปเช่นบริเวณทางเข้าออก เพราะอาจจะทำให้เสียเวลามากเกินไป แต่การใช้วิธีนี้มักจะใช้กับการเข้าสู่พื้นที่ที่สำคัญมากจริงๆขององค์กรอย่างเช่น ห้องผู้บริหาร ห้องแล็บ หรือห้องเกี่ยวกับการเงิน เนื่องจากสาเหตุหลายอย่าง
ใช้คีย์การ์ดกับการตั้งรหัสผ่านประตูเพื่อป้องกัน
การใช้ระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้คีย์การ์ด ควบคู่ไปกับการตั้งรหัสผ่านประตูนั้น สิ่งแรกเลยก็เพื่อป้องกันการเข้าสู่ห้องหรือพื้นที่สำคัญได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากการใช้การ์ดหากถูกคนอื่นหยิบมาใช้แทนก็สามารใช้ได้เลย ดังนั้นเพื่อป้องกันการโดนขโมยการ์ดมาแอบเข้า การตั้งรหัสถือว่าเหมาะ
ใช้คีย์การ์ดกับการตั้งรหัสผ่านประตูเพื่อตรวจสอบ
นอกจากวิธีนี้จะทำขึ้นเพื่อป้องกันการถูกลอบเข้าในพื้นที่สำคัญแล้ว การใช้คีย์การ์ดร่วมกับตั้งรหัสประตูนั้นจะเป็นการตรวจสอบคนที่เข้ามาในพื้นที่ได้ดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้คนทั่วไปคงไม่สามารถเข้าไปได้ หากมีอะไรเกิดข้อมูลการเข้าออกจะเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนได้เป็นอย่างดี
ใช้คีย์การ์ดแล้วตั้งรหัสผ่านประตูจำเป็นหรือไม่
การใช้คีย์การ์ดควบคู่ไปกับการตั้งรหัสผ่านประตูถามว่าจำเป็นหรือไม่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมหากเป็นหอพักทั่วไปอาจจะไม่จำเป็นเท่าไร แต่หากเป็นบริษัท ที่ต้องการรักษาความลับ การจำกัดคนเข้าในพื้นที่สำคัญด้วยวิธีการนี้ก็นับว่าเป็นการป้องกันเบื้องต้นจากการก่ออาชญญกรรมที่น่าสนใจ
การใช้คีย์การ์ดเป็นระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ถ้าหากต้องการจะป้องกันจริงๆ บอกเลยว่าอาจจะไม่เพียงพอเสียแล้วเพราะเหล่าอาชญากรรมเดี๋ยวนี้ไม่อยากจะยอมรับเลยว่า เค้าพัฒนาตัวเองไปมากจนเราอาจจะไม่รู้เลยว่าเค้าทำอะไรได้บ้าง ทางที่ดีเราควรป้องกันตัวเองและองค์กรให้ดีที่สุด