SIAM FINGER SCAN

www.siamfingerscan.com


10 เทคนิคในการเลือกซื้อชุดประตูคีย์การ์ดสำหรับใช้งานในบริษัท

อัพเดทเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 15:05:56 น.

ปัจจุบันชุดประตูคีย์การ์ดถือเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมจากอาคารที่พักและสำนักงานต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง แต่เนื่องจากชุดประตู

คีย์การ์ดมีความหลากหลายทั้งยี่ห้อ ความสามารถ และราคา ทำให้ยากต่อการเลือกซื้อ วันนี้เราขอเสนอเทคนิคในการเลือกซื้อชุดประตูคีย์การ์ดอย่าง

ง่ายๆ ดังนี้

1.รูปแบบการควบคุมการปิด-เปิด ประตู

เป็นตัวกำหนดรูปแบบในการใช้งานว่าสะดวกหรือเหมาะสมกับความต้องการหรือไม่เช่น เป็นแบบใช้บัตรแตะผ่านอย่างเดียว หรือ ต้องใช้ทั้งบัตรผ่าน

และรหัสลับร่วมกัน

2.มีระบบบันทึกการเข้า-ออกงานหรือไม่

ชุดประตูคีย์การ์ดที่มีราคาสูงส่วนใหญ่แล้วมักจะมีระบบบันทึกการเข้า-ออกงาน มาให้พร้อมกันด้วย ซึ่งเหมาะสมกับบริษัทที่ต้องการบันทึกเวลาเ

เข้า-ออกงานของพนักงาน, มีการจ่ายค่าแรงตามจำนวนชั่วโมงทำงาน หรือมีการจ่ายค่าแรงล่วงเวลา

3.ระยะห่างในการอ่านบัตร

ชุดประตูคีย์การ์ดที่มีความไวในการจับสัญญาณควรมีระยะห่างในการอ่านบัตรได้ไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

4.ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูล

ชุดประตูคีย์การ์ดที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีความเร็วในการอ่าน ตรวจสอบข้อมูลบนบัตร และบันทึกข้อมูลการเข้า-ออก ได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1-2

วินาที เพื่อให้สามารถรองรับพนักงานจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนได้

5.จำนวนบัตรที่สามารถรองรับได้

จำนวนบัตรที่เครื่องสามารถรองรับได้นับเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับบริษัทหรือโรงงานที่มีพนักงานจำนวนมาก

6.ความจุในการบันทึกข้อมูล

โดยทั่วไปแล้วชุดประตูคีย์การ์ดที่ดีควรจะมีความจุในการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างน้อยเป็นเวลา 30 – 45 วัน เพื่อความสะดวกในการเรียกดูข้อมูลย้อนหลัง

7.ประเภทของบัตรที่ต้องใช้

ควรสอบถามว่าชุดประตูคีย์การ์ดที่คุณสนใจนั้นใช้กับบัตรผ่านประเภทใดได้บ้าง เช่น บัตร Proximity หรือ บัตร Mifare หรือใช้ได้ทั้งสองแบบ เพราะ

ราคาของบัตรแต่ละประเภทนั้นมีราคาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่แยกต่างหากจากตัวเครื่อง

8.วิธีการถ่ายโอนและสำรองข้อมูล

ความสะดวกในการถ่ายโอนหรือทำสำรองข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วชุดประตูคีย์การ์ดจะมีความสามารถในการถ่าย

โอนข้อมูลผ่านสาย LAN หรือ ช่อง USB หรือได้ทั้งสองแบบ

9.ระยะเวลาในการรับประกัน

โดยทั่วไปแล้วผู้จัดจำหน่ายจะมีการรับประกันอุปกรณ์และโปรแกรมการทำงานให้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี แต่ปัจจุบันผู้จัดจำหน่ายหลายรายก็มีการ

เสนอเพิ่มระยะเวลารับประกันให้นานถึง 2 ปี

10.ใบรับรองมาตรฐานสินค้า

ควรขอข้อมูลว่าชุดประตูคีย์การ์ดที่คุณสนใจนั้นได้รับใบรับรองมาตรฐานสินค้าจากที่ใดบ้าง โดยส่วนใหญ่แล้วควรจะได้รับการรับรองมาตรฐานจาก

ทางยุโรป เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า

ทั้งหมดข้างต้นนี้เป็นเทคนิคที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาเปรียบเทียบชุดประตูคีย์การ์ดแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจและสามารถ

ตัดสินใจเลือกซื้อได้สินค้าได้อย่างใกล้เคียงกับความต้องการให้ได้มากที่สุด